ประวัติการสร้างสันติเจดีย์
พระนพีสีพิศาลคุณ (หลวงพ่อมหาทองอินทร์ กุสลจิตฺโต)และศรัทธา ญาติโยมได้ช่วยกันสร้าง สันติเจดีย์ โดยประยุกต์แบบมาจากพระเจดีย์
วัดเจดีย์เหลี่ยม ตำบลท่าวังตาล อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่
ซึ่งเป็นเจดีย์ที่สร้างตามแบบของ
เจดีย์กู่กุด จังหวัดลำพูน ซึ่งเป็นแบบสุวรรณจังโกฎิเจดีย์
มีลักษณะ ทรงกรวยสี่เหลี่ยมเป็นชั้นห้าชั้น มีซุ้มจระนำทั้งหมด หกสิบซุ้ม ซึ่งมีพระพุทธรูป หกสิบองค์ เป็นศิลปะละโว้หริภุญไชย องค์พระเจดีย์วัดเจดีย์เหลี่ยนนั้นศิลปะได้รับอิทธิพลมาจากมอญในพุกามมาผสมผสานด้วย โดยความเห็นชอบของพระนพีสีพิศาลคุณ ได้ประยุกต์รูปแบบสันติเจดีย์ให้เป็นเจดีย์ที่ออกแบบให้สืบทอดความงามด้านศิลปกรรม สถาปัตยกรรม และวัฒนธรรมอันเก่าแก่ของอาณาจักรล้านนา เป็นแบบเจดีย์เหลี่ยม
ฐานกว้าง ๑๒ x ๑๒ เมตร สูง ๓๑ เมตร
มีการวางศิลาฤกษ์โดยพันตำรวจเอกนิรันดร ชัยนาม ผู้ว่าราชการจังหวัด เชียงใหม่ เมื่อวันอังคารที่ ๙ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๑๔ เวลา ๘.๑๕ น. โดยมีพระราชวินยาภรณ์ (พระพุทธพจนวราภรณ์ จันทร์ กุสโล ) วัดเจดีย์หลวง.เป็นประธานฝ่ายสงฆ์
ในแต่ละชั้นของ สันติเจดีย์มี ซุ้มจระนำ ด้านละ ๓ ชุด ตั้งแต่ ชั้นที่๑ ถึงชั้นที่ ๕ ชั้นที่๑ เป็นที่ประดิษฐานพระปางห้ามพระสมุทร ชั้นที่ ๒ เป็นที่ประดิษฐานพระปางอุ้มบาตร
ชั้นที่ ๓ เป็นที่ประดิษฐานพระปางห้ามญาติ ชั้นที่๔ เป็นที่ประดิษฐานพระปาง รำพึง ชั้นที่ ๕ เป็นที่ประดิษฐาน พระปางประทับยืน ภายในเจดีย์ชั้นที่ ๒ เป็นที่เก็บน้ำดื่ม น้ำใช้ภายในวัด ที่ปั๊มขึ้นมาจากบ่อบาดาล ใช้เวลาสร้าง ๕ ปี ตั้งแต่พ.ศ. ๒๕๑๔ - พ.ศ. ๒๕๑๙ สิ้นค่าใช้จ่าย ๘๙๓,๓๐๔.๗๕ บาท

พิธีกรรมในการวางศิลาฤกษ์และการยกฉัตรพระเจดีย์ การบรรจุพระธาตุ ปูชนียวัตถุ วัตถุมงคล สิ่งของต่างๆ ในพระเจดีย์ตามประเพณีนิยมแต่โบราณกาลนั้น
เป็นเรื่องละเอียดอ่อน แม่คิ้มได้ไปกราบนมัสการขอคำแนะนำจาก หลวงปู่ครูบาคำแสน คุณาลังกาโร วัดดอนมูล อำเภอสันกำแพง
(ศิษย์ชั้นผู้ใหญ่ของหลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต) หลวงปู่ได้เมตตาแนะนำลำดับพิธีการทุกอย่าง
วันเสาร์ที่ ๓๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๑๙ โดยพระราชวินยาภรณ์ (พระพุทธพจนวราภรณ์ จันทร์ กุสโล )
เจ้าอาวาสวัดเจดีย์หลวงวรวิหารใเป็นประธานทำบุญยกยอดฉัตรสันติเจดีย์

ระหว่างวันที่ ๑๔-๑๖ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๑๙ จัดงานทำบุญฉลองสันติเจดีย์ วันที่๑๔ มีนาคม มีการเจริญพระพุทธมนต์ และประกอบพิธีเบิกเนตรพระที่สร้างใหม่ตรงกลางเจดีย์หันหน้าออก ๔ ทิศ

ในวันจันทร์ ที่ ๑๕ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๑๙ เวลา ๑๙.๐๐ น. สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปริณายก (วาสน์ วาสโนมหาเถระ) เสด็จเป็นองค์ประธานการบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ และปูชนียวัตถุไว้ที่ยอดและในองค์สันติเจดีย์ เจริญพระพุทธมนต์และทรงแสดง พระธรรมเทศนาอบรมกรรมฐาน ๑ กัณฑ์
 
 
เช้าวันที่๑๖ มีนาคม พ.ศ.๒๕๑๙ ทำบุญตักบาตรและถวายสันติเจดีย์และพระพุทธรูปทั้งหมด
 
เหรียญหลวงปู่สิม พุทฺธาจาโร รุ่น ๓ สันติเจดีย์
ปัจจัยในการก่อสร้างได้รับบริจาคจากศรัทธาทั้งหลาย ส่วนหนึ่งแม่คิ้มได้สำรองจ่ายเป็นเงินส่วนตัวสร้างเหรียญหลวงปู่สิม พุทธาจาโร รุ่นเจดีย์ ๑๗ ๗ - ๑๗ โดยคุณชัชวาลย์ ชุติมา เป็นผู้ติดต่อประสานงาน ช่างเกษมเป็นผู้แกะพิมพ์ หลังจากหักต้นทุนออกแล้วเหลือเงิน ๗๔,๕๒๘.๕๒ บาท สมทบทุนสร้างพระเจดีย์
อนึ่งโดยคำแนะนำของช่างก่อสร้าง ภายในองค์พระเจดีย์ ได้สร้างชั้นสองของพระเจดีย์เป็นที่เก็บน้ำ พ.ศ. ๒๕๔๐ ซ่อมพระเจดีย์ ทำที่เก็บน้ำใหม่ที่ชั้นสามของพระเจดีย์ เพื่อเพิ่มแรงดันน้ำ ได้ใช้ประโยชน์มาจนทุกวันนี้ และเพิ่มความสูงของยอดฉัตรเป็น ๓๕ เมตร
สภาพพระสันติเจดีย์ในปัจจุบัน ได้ชำรุดทรุดโทรมไปตามกาลเวลา ลายปูนปั้นบางส่วนได้หลุดกะเทาะออกไป ยอดพระเจดีย์รายได้แตกกะเทาะจนมองเห็นโครงเหล็กภายใน ระบบไฟฟ้ารอบพระเจดีย์ได้ถูกตัดขาด ทองจังโกยอดปลี ไม่สมบูรณ์เพราะการบูรณะที่ไม่สำเร็จมีสภาพไม่เป็นที่เจริญศรัทธา ห้องโถงภายในพระเจดีย์มีรอยรั่วทำให้มีน้ำซึมเข้ามา เห็นเป็นรอยด่าง กระจกช่องลมแตกหลายแห่ง ประตูเลื่อนก็ชำรุด สีขององค์พระเจดีย์ด้านหนึ่งมีสีทอง ด้านหนึ่งเป็นสีขาวเนื่องจากการบูรณะไม่สำเร็จ มีตระไคร้น้ำและหน่อโพธิ์ขึ้นกระจายอยู่โดยรอบ
คณะศรัทธาวัดสันติธรรม ในฐานะศิษยานุศิษย์ผู้รับภาระรักษามูลมรดกที่พระบูรพาจารย์ หลวงปู่สิม พุทฺธาจาโร และหลวงพ่อมหาทองอินทร์ กุสลจิตฺโต ได้สร้างไว้ให้ลูกหลานได้ช่วยกันรักษา จึงสมควรอย่างยิ่งที่จะต้องทำการบูรณะพระสันติเจดีย์ ให้มีสภาพที่สมบูรณ์งดงามดังเดิม ดังนั้น จึงสมควรดำเนินโครงการบูรณะพระสันติเจดีย์ ซึ่งมีส่วนที่จะต้องดำเนินการบูรณะดังต่อไปนี้
งบประมาณในการบูรณะส่วนต่าง ๆ ที่จะดำเนินโครงการประกอบด้วย
- บูรณะลวดลาย ประมาณ ๕๐,๐๐๐ บาท
- บูรณะปรับปรุงพื้น ประมาณ ๑๕๐,๐๐๐ บาท
- บูรณะพระพุทธรูปรายรอบองค์พระเจดีย์ ประมาณ ๖๐๐,๐๐๐ บาท
-
ทาสี ประมาณ ๕๐๐,๐๐๐ บาท
- บูรณะระบบไฟฟ้า ประมาณ ๔๐,๐๐๐ บาท
- ปิดทองจังโก ปลียอด ประมาณ ๕๐๐,๐๐๐ บาท
- ประตูทางเข้า ประมาณ ๑๐,๐๐๐ บาท
- กระจกช่องลม ประมาณ ๑๐,๐๐๐ บาท
- ปูกระเบื้องลานพระเจดีย์ ๑๒๐ ตารางเมตร ประมาณ ๓๖๐,๐๐๐ บาท
รวมงบประมาณทั้งหมด ๒,๒๒๐,๐๐๐
|